วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2551

“โตโยต้า” ยอมรับปีนี้จะขาดทุน นับเป็นครั้งแรกในประวัติบริษัท

เอเอฟพี - โตโยโต้ มอเตอร์ คอร์ป แถลงวันจันทร์ (22) คาดหมายว่า ปีนี้บริษัทจะต้องประสบภาวะขาดทุนจากการดำเนินงานเป็นครั้งแรกในประวัติ ศาสตร์ของบริษัท อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลต่อตลาดรถยนต์ของโลกอย่างรุนแรง และกำลังลดการผลิตและการลงทุนลงมา เนื่องจากยอดขายที่ลดลงทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมทั้งค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับเงินสำคัญหลายๆ สกุล ทำให้เมื่อแปลงรายได้สกุลเงินอื่นๆ มาเป็นเยน เพื่อลงในบัญชี รายได้รวมของโตโยต้าก็ต้องหดหายไปมาก ถือเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกกำลังจมถลำลงสู่วิกฤตอันร้ายแรงขึ้นทุกขณะ โดยที่ได้ทำเอาเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่ง และ ไครสเลอร์ บริษัทเล็กที่สุดในบรรดา “บิ๊กทรีแห่งดีทรอยต์” ของสหรัฐฯ เกือบต้องเผชิญกับภาวะล้มละลายอยู่แล้ว


....................ความต้องการซื้อรถยนต์ที่ดิ่งเหวในสหรัฐฯจากการที่วิกฤตการเงินได้ ฉุดลากเอาเศรษฐกิจโดยรวมลงให้ถดถอยลงไปด้วย และก็เป็นเหตุให้ทำเนียบขาวต้องออกมาประกาศให้เงินกู้ฉุกเฉินแก่ จีเอ็ม และ ไครสเลอร์ เพื่อให้ไม่ล้มครืนมาลงมา
แสดงให้เห็นว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกนั้นกระทบต่อตลาดรถยนต์ทุกแห่งอย่างรุนแรง ไม่ใช่แต่บรรดาบิ๊กทรีในดีทรอยท์เท่านั้นที่มีปัญหา

เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นย่ำแย่อย่างหนัก เพราะว่าโตโยต้านั้น ก็เหมือนกับตัวแทนของญี่ปุ่น และไม่เพียงแต่โตโยต้าเท่านั้นผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายก็ต้องดิ้นรน เพื่อความอยู่รอดท่ามกลางภาวะตลาดที่ยากลำบากสุดแสน


....................ในปีนี้ โตโยต้า คาดว่า ยอดขายทั่วโลกจะอยู่ที่ 21.5 ล้านล้านเยน ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 23 ล้านล้านเยน บริษัทคาดว่าจะขายรถยนต์ได้ 8,960,000 คัน ในปีนี้ลดลงจากปีก่อน 4%

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 ธันวาคม 2551 21:40 น.


บทวิเคราะห์

....................จแม้กระทั่งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า ออกมาแถลงความเสียหายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 70 ปีที่ผ่านมานี้ แสดงให้เห็นว่า วิกฤษเศรษฐกิจครั้งนี้ มีความรุณแรงเป็นอย่างมาก อาจจะเทียบเท่ากับครั้งที่เกิด ภาวะสงครามเลยก็ว่าได้
ถึงคราวที่นักลงทุนและนักธุรกิจต้องงัดกลเม็ด ต่างๆนานา ดึงเอาความรู้ที่มีทั้งหมดออกมา แก้ไขปัญหา
วิกฤษเศรษฐกิจครั้งนี้ งานนี้จะได้รู้ไปเลยว่า ใครเก่งจริง ใครแก้ไขปัญหาได้เก่ง

จากนี้ก็ได้แต่ภาวนา ว่าเศรษฐกิจของโลกนั้นจะดีขึ้นเรื่อย ขอให้อย่าย่ำแย่ลงไปกว่านี้เลย ถ้าไม่เช่นนั้น
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าหรือบริษัทอื่นๆ อาจจะกลายเป็นเพียงแค่ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง ของวงการเศรษฐกิจโลก พร้อมกันนั้นจะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างน่ากลัว

5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ23 ธันวาคม 2551 เวลา 20:24

    เรียกว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจมาก... เนื่องจากบริษัทโตโยต้านั้น ถือว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ23 ธันวาคม 2551 เวลา 22:08

    ผลจากเศรษฐกิจของโลกนั้นทรุดตัวลง

    ทำให้หลายๆธุระกิจไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่

    ล้วนได้รับผลกกระทบด้วยกันทั้งสิ้น

    หาเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้น

    อาจจะมีบริษัทอีกหลายๆบริษัท

    ที่ทนแบกรับสภาวะเช่นนี้ไม่ไหว

    ปิดตัวลงในที่สุดอีกเป็นแน่

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ24 ธันวาคม 2551 เวลา 10:45

    ไม่ใช่เพียงโตโยต้าเท่านั้นที่ขาดทุนในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เพียงแต่ไม่มีรายงานเปิดเผยของบริษัทอื่นๆ เนื่องจากในภาวะเช่นนี้ความต้งการซื้อรถมีน้อยลงทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจด้านนี้ได้รับผลกระทบตาม

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ25 ธันวาคม 2551 เวลา 14:18

    ที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำเช่นนี้ ก็คงจะมีสาเหตุหลักมาจาก การที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจ อย่างสหรัฐกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตนั่นเอง จึงส่งผลต่อประเทศต่างๆที่ทำการค้ากับสหรัฐเป็นอย่างมาก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นเราควรช่วยกันหาทางรับมือและแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะในช่วงนี้ยังไม่มีท่าทีว่าระบบเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น และในเวลานี้คงไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง เพราะแต่ละประเทศก็ประสบปัญหาไม่น้อยไปกว่าเรา

    ตอบลบ
  5. เมื่อบริษัทใหญ่ขนาดนี้ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก บางทีอาจจะเป็นผลดีก็เป็นได้ เพราะว่า เมื่อยอดการผลิตลดลง จำนวนของรถยนตร์ในตลาดก็ลดปริมาณลง เป็นไปได้ว่า ราคาน้ำมันและก๊าซพลังงานนนั้น อาจปรับลดราคาลงได้เช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นจริงผลดีก็จะตกแก่ประชาชน เพราะลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก

    ตอบลบ