วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ดอลลาร์อ่อนแรง

การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารกลางสหรัฐส่ง ผลดีต่อตลาดหุ้น แต่ส่งผลเสียต่อการซื้อขายเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ตลาดเอเชียเมื่อวันพุธเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบสองเดือน เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร เพราะการลดดอกเบี้ยแสดงถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ ดังนั้น นักลงทุนจึงพากันไปซื้อสินทรัพย์ในรูปของเงินสกุลอื่นๆ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ 1.4067 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร เทียบกับค่าเงินเมื่อวันอังคารอยู่ที่ 1.4002 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร นับว่าอ่อนค่าต่ำสุดมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นอยู่ที่ 89.01 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดอยู่ที่ 88.53 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนเงินเยนเทียบกับเงินยูโรอยู่ที่ 125.34 เยนต่อยูโร จากเมื่อวันก่อนอยู่ที่ 124.71 เยนต่อยูโร ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเงินเยนจะเทรดในระดับต่ำสุดที่ 85 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ

เวลานี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 12% เมื่อเทียบกับเงินยูโร จากที่เคยทำสถิติซื้อขายสูงสุดอยู่ที่ 1.2330 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา และอ่อนค่าลงถึง 20% เมื่อเทียบกับเงินเยนภายในปีนี้ ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวของค่าเงินปอนด์อังกฤษ มีการซื้อขายเมื่อวันพุธที่ 90.18 เพนซ์ต่อยูโร เทียบกับเมื่อวันอังคารอยู่ที่ 89.94 เพนซ์ตอยูโร

การที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงอีกครั้งเพราะนักลงทุนในตลาดการเงินเชื่อมั่น ว่าธนาคารกลางอังกฤษที่กำลังจะประชุมภายในเดือนนี้จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ลงไปอยู่ที่ระดับ 2.00% เป็นการปรับลดตามสหรัฐ

มีแนวโน้มว่าหากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าในระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงิน เยนและยูโรจะทำให้ธนาคารในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7 ชาติหรือจี-7 ยอมให้ธนาคารแต่ละประเทศเข้าแทรกแซงการซื้อขายค่าเงินเหมือนที่เกิดขึ้นในปี 1995 เมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดอยู่ที่ 79.75 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ


จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้



บทวิเคราะห์.....

จากการที่ค่าเงินดอลลาห์สหรัฐอ่อนค่าลง แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งค่าเงินดอลลาห์สหรัฐมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกเรื่อยๆ ทำให้ไม่มีใครอยากถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐไว้มากนัก ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อังกฤษอ่อนตามลงไปด้วยเพราะ นักลงทุนในตลาดการเงินเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางอังกฤษ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงตามสหรัฐ ดังนั้นนักลงทุนจึงหันไปถือเงินยุโรปและทองคำมากขึ้น ทำให้เงินยุโรปแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำสูงขึ้น และทำให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าที่สุดในรอบ 9 ปีอีกด้วย

8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19 ธันวาคม 2551 เวลา 12:12

    จากการที่ค่าเงินดอลลาห์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก

    ยิ่งถ้าสถานการณ์การเมืองนี่ไม่นิ่งเช่นนี้

    ทำให้นักลงทุนต่างประเทศ เกิดความไม่มั่นใจ และไม่กล้าลงทุน

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ19 ธันวาคม 2551 เวลา 17:14

    การที่เงินดอลล่าร์ หรือ เงินปอน์็ด อ่อนตัวลงนั้น จะส่งผลกระทบในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจส่งออก หรือ การท่องเที่ยวต่างๆ เพราะ ค่าเงินประเภทนี้ ถือว่าเป็นค่าเงินที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะเนื่องจากเป็นค่าเงินที่ใช้กันในหลายประเทศในแทบทวีปยุโรป

    ตอบลบ
  3. การที่ลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารสหรัฐฯ ลงนั้นน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ ต้องการให้นักธุรกิจมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจของตน
    และเหตุเกิดจากค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนที่ซื้ื้อขายพันธบัตรหันไปซื้อขายสินทรัพย์อย่างอื่น

    แต่.... ผมคิดว่า การที่ค่าเงินสหรัฐอ่อนค่าลง เป็นโอกาสที่น่าจะตุนเงินดอลล่าร์ไว้ เมื่อตอนที่มันยังมีราคาต่ำอยู่ ณ ตอนนี้เพื่อนำไปเก็งกำไรในระยะยาวตอนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัว

    ตอบลบ
  4. ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกเศรษฐกิจครับ

    ทุกอย่่างจะดีเอง

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ21 ธันวาคม 2551 เวลา 02:14

    การที่ค่าเงินดอลล่า อ่อนตัวลง ส่งผลให้เศรษฐกิจของโลกมีความแปรปรวนสูงเพราะค่าเงินดอลล่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนของนักลุงทุน

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  7. เวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ไทย และประเทศอื่นๆ สามารถเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของตนเองให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น มีอิทธิพลมาเป็นเวลานาน
    ตอนนี้จึงควรขยายการผลิต การส่งออก และพัฒนาเศรษฐกิจให้ทัดเทียมกับประเทศมหาอำนาจอื่นๆอีกด้วย

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ29 มกราคม 2552 เวลา 01:14

    ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ