“การประชุมครั้งนี้ยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกปี 51 อย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 12% ซึ่งใกล้เคียงกับปีนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายตัวของการส่งออกไปยังตลาด ใหม่ๆ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง จีน แอฟริกา เอเชียใต้ ยุโรปตะวันออก ละตินอเมริกา และอาเซียน รวมถึงผลักดันธุรกิจบริการเพื่อให้ไทยมีรายได้จากธุรกิจบริการมากขึ้น” นายราเชนทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้ หัวหน้าสำนักงานต่างๆได้เสนอแผนส่งเสริมการส่งออกปี 51 โดยตลาด หลักของการส่งออกสินค้าไทยได้กำหนดเป้าหมายส่งออกลดลง เพราะปัญหาเศรษฐกิจภายในแต่ละประเทศ เช่น ตลาดสหรัฐฯ ปี 51 เป้าส่งออก 3-7% ลดลงจากเป้าปี 50 ที่คาดว่าจะขยายตัว 6% ตลาดยุโรปตั้งเป้า 25% ลดจาก 30%, ญี่ปุ่นตั้งเป้า 7% ลดจาก 10% อินเดียเป้า 50% ลดจาก 60% รัสเซีย 25% ลดจาก 30% ภูมิภาคตะวันออกกลาง 19.5% ลดจาก 19.7%
ส่วนตลาดที่กำหนดเป้าส่งออกในปี 51 เพิ่มขึ้น ได้แก่ แคนาดา ขยายตัว 10% เพิ่มจาก 9% บราซิล 35% เพิ่มจาก 30% จีน 2% เพิ่มจาก 20%
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดให้ ทุกภูมิภาคมีส่วนร่วมในการผลักดันธุรกิจบริการเพื่อให้ ไทยมีรายได้จากธุรกิจบริการในสัดส่วนที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับการส่งออกสินค้า โดยเฉพาะธุรกิจที่ไทยมีความได้เปรียบ เช่น ร้านอาหารไทย ธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงาม (โรงพยาบาลและธุรกิจสปา) และการศึกษานานาชาติ รวมทั้งธุรกิจบริการใหม่ๆ เช่น ธุรกิจออกแบบก่อสร้าง อู่ซ่อมรถยนต์ บันเทิง ตัดเย็บเสื้อผ้า และธุรกิจแฟรนไชส์
การที่กระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการขยายตัวของการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆนั้น ย่อมส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศคู่ค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันของไทย ประสบปัญหาเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้ จึงส่งผลกับธุรกิจส่งออกของไทย ดังนั้น การหาตลาดใหม่ๆจึงช่วยแก้ปัญหาธุรกิจการส่งออกของไทยได่อีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ต้องคำนึกถึงคุณภาพของสินค้า ที่จะส่งออกไปยังตลาดใหม่ให้ได้มาตราฐานด้วย
ตอบลบนับเป็นข่าวดีของประเทศไทย
ตอบลบที่กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมการส่งออกให้ขยายตัวดีขึ้น
ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรม อุตสาหกรรอยู่แล้ว
ดิฉันคิดว่าจุดนี้จะสามารถกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้กับประเทศ
ให้ดีขึ้นได้มากมายทีเดียว
จากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลงมา เป็นไปได้ยากเลยทีเดียวว่าทั้งโลกจะสามารถฟื้นตัวจากวิกฤติครั้งนี้ได้อย่างง่ายดาย
ตอบลบโดยเฉพาะภูมิภาคในเขตเอเชีย ที่มีลูกค้ารายสำคัญนั่นก็คือ สมาชิกประเทศในยุโรปและอเมริกา ที่พวกเขาได้ลดกำลังการซื้อลง จนยอดต่ำกว่า 10 % ของยอดสั่งซื้อที่เคยเป็น และคงอีกนานกว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว
เศรษฐกิจของไทยนั้น... จำเป็นต้องพึ่งภาคการส่งออกอย่างมาก... รัฐบาลสมควรเป็นอย่างที่จะพัฒนาการส่งออก เพื่อจะได้นำมาหนุนเศรษฐกิจภายในประเทศให้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติ มีความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง
ตอบลบจากการการปรุลุมมีผลสรุปทราบว่าแผนการส่งเสริมการส่งออกมีการขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับประเทศไทยเป็นอย่างมาเพราะสามารถช่วยให้ประเทศมีการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าทางการเกษตร ซึ่งประเทศไทยเองก็ได้ชื่อว่าอู่ข้าวอู่น้ำของโลก ซึ่งจะช่วยเกษตรกรให้พ้นจากภาวะเศรษกิจต่ำต่ำนี้ได้
ตอบลบในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มี การผลักดันธุรกิจในด้านบริการเพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่าธุรกิจการส่งออกสินค้า หากมีการผลักดันให้มีการส่งออกสินค้ามากขึ้นในช่วงที่เศรษญกิจตกต่ำเช่นนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกในเรื่องของราคาที่ตกต่ำ และสินค้าไม่ตรงตามเป้าหมาย
ตอบลบเป็นผลดีของเศรฐษกิจประเทศไทย รัฐบาลน่าจะมีนโยบายที่ช่วยสนับสนุนการส่งออก เพราะเป็นหนทางที่จะช่วยเศรฐกิจของประเทศในปัจุบัน
ตอบลบการส่งออกสินค้าทั้งด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมของไทยนั้น เป็นที่ยอมรับและขยายวงกว้างไปทั้งทวีใกล้เคียงและทวีปยุโรป เนื่องจากสินค้าไทย ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพสินค้า
ตอบลบแต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก นั่นก็คือ ธุรกิจด้านการบริการและการท่องเที่ยว เป็นส่วนหนึ่งที่ทำรายได้ให้กับประเทศจำนวนหลายพันล้านต่อปี จึงควรผลักดันในส่วนนี้ และอาจเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นอยุ๋ก็เป็นได้
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ตอบลบ